จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศ ของกรมควบคุมมลพิษ พบว่าในพื้นที่ตำบลในเมือง อำเภอเมืองขอนแก่น พบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) มีค่า 63 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ส่วนค่าดัชนีคุณภาพอากาศ หรือ AQI วัดได้ 133 ทำให้ประชาชนทั่วไปควรเฝ้าระวังสุขภาพ ถ้ามีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น กลุ่มเสี่ยงประชาชนกลุ่มเสี่ยงเด็ก คนชรา หญิงมีครรภ์ และผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวในกลุ่มโรคทางเดินหายใจ และโรคหัวใจและหลอดเลือด ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง หากมีความจำเป็น ถ้ามีอาการทางสุขภาพ เช่น ไอ หายใจลำบาก ตาอักเสบ แน่นหน้าอก ปวดศีรษะ หัวใจเต้นไม่เป็นปกติ คลื่นไส้ อ่อนเพลีย ควรปรึกษาแพทย์
ขณะที่ นายวิรุฬห์ ฤกษ์ธนะขจร ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 10 ขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่ สคพ.10 เจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลนครขอนแก่น และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ได้ตั้งจุดตรวจควันดำ ตามมาตรการในการป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่ต้นทาง โดยกำหนดแนวทางควบคุมและลดมลพิษจากยานพาหนะตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ การแก้ไขปัญหามลพิษฝุ่นละออง PM 2.5 ผลจากการเรียกรถยนต์ตรวจสอบ จำนวน 86 คัน แบ่งออกเป็น รถยนต์ตาม พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อมฯ จำนวน 69 คัน พบควันดำเกินค่ามาตรฐาน และออกคำสั่งห้ามใช้ชั่วคราว จำนวน 14 คัน รถยนต์ตาม พ.ร.บ. ขนส่งฯ จำนวน 17 คัน พบ ควันดำเกินค่ามาตรฐาน จำนวน 4 คัน ผู้ตรวจการพ่นห้ามใช้ 4 คัน
นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันนี้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เป็นปัญหาสำคัญที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ และส่งผลกระทบต่อสุขอนามัยของประชาชน ซึ่งหนึ่งในสาเหตุสำคัญมาจากควันดำของท่อไอเสียรถยนต์ การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ทำให้รถยนต์แต่ละคันอาจมีควันดำออกมามาก ทั้งนี้จังหวัดขอนแก่นพร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการตามมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้จัดผู้ตรวจการออกตรวจวัดควันดำจากท่อไอเสียของรถบรรทุกและรถโดยสาร โดยจะลงพื้นที่เฝ้าระวัง ตรวจสอบ ตรวจจับและห้ามใช้รถยนต์ควันดำ ในฟื้นที่จังหวัดขอนแก่นอย่างเข้มงวด.
